Mark Cuban จากเด็กขายถุงขยะ สู่ มหาเศรษฐีแสนล้าน /โดย ลงทุนแมน
เมื่อพูดถึงวงการอาหาร หลายคนคงจะนึกถึง Gordon Ramsay
ชายที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด แต่ฝีไม้ลายมือและความอัจฉริยะด้านอาหาร
ก็เปี่ยมไปด้วยคุณภาพจนเถียงไม่ออก
สำหรับวงการธุรกิจเอง ก็มีคนหนึ่งที่มีบุคลิกคล้าย Ramsay ไม่มีผิด
เขาคนนั้นก็คือ Mark Cuban มหาเศรษฐีวัย 63 ปี ผู้ที่เด็ดขาดกับเรื่องธุรกิจ
และเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่สร้างผลตอบแทนได้อย่างมหาศาล
เขาคนนี้มีจุดเริ่มต้นเป็นเพียงเด็กธรรมดาคนหนึ่ง
แต่ปัจจุบัน เขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีแสนล้าน
แล้วเรื่องราวของ Cuban น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Mark Cuban เกิดในเมืองพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 1958
โดยพ่อของเขาประกอบอาชีพเป็นช่างทำเบาะรถยนต์และแม่ของเขาทำงานรับจ้างทั่วไป
จุดเริ่มต้นของเส้นทางการเป็นผู้ประกอบการของ Cuban เกิดขึ้นเมื่อเขามีอายุเพียง 12 ปี
ในขณะนั้น เขาได้ขอเงินจากพ่อเพื่อซื้อรองเท้าคู่ใหม่ แต่แทนที่จะได้รองเท้า
เขากลับได้คำตอบที่จำได้ไม่เคยลืมว่า รองเท้าที่เขามีนั้นดีอยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นที่จะต้องซื้อใหม่เลย แต่ถ้าอยากได้รองเท้าคู่ใหม่ ก็ต้องทำงานเก็บเงินเอง จะได้มีเงินซื้อ
คำพูดของพ่อเขาทำให้ Cuban เกิดแรงบันดาลใจในการหาเงินด้วยตัวเอง
จึงนำไปสู่ธุรกิจแรกในชีวิตคือ “การขายถุงขยะ”
ไอเดียของเขาในตอนนั้นก็คือ ซื้อสินค้าราคาส่งมาขายในราคาปลีก
โดย Cuban เริ่มจากไปซื้อถุงขยะชุดใหญ่ในราคา 100 บาท แล้วนำมาแบ่งขายต่อราคา 200 บาท
สำหรับวิธีการขาย ก็คือเดินเคาะขายตามบ้านเรือนรอบข้างและจี้จุด Pain Point เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนอยากซื้อ เช่น การอธิบายข้อเสียของการไม่มีถุงขยะและบอกข้อดีคือไม่ต้องเหนื่อยเดินทางออกไปซื้อเอง
จากธุรกิจนี้เอง ก็ได้ทำให้เขาตกหลุมรักการทำธุรกิจอย่างมาก เพราะเขารู้สึกว่านอกจากมันจะสร้างเงินได้แล้ว เขายังสนุกไปกับมันอีกด้วย
นั่นจึงทำให้ Cuban ในวัยเด็กรู้จักการหาเงินด้วยตัวเองอยู่เสมอ
ซึ่งนอกจากขายถุงขยะ เขายังขายของสะสม เช่น แสตมป์ หรือเหรียญต่าง ๆ ด้วย
ในเวลาต่อมา บริษัทสำนักพิมพ์ท้องถิ่นของเมืองที่ Cuban อาศัยอยู่
โดนพนักงานประท้วงหยุดงานจนต้องหยุดส่งหนังสือพิมพ์
Cuban ก็ได้ใช้เหตุการณ์นี้เป็นโอกาสเพราะเขามองว่านิสัยของคนมักชอบเสพและติดตามเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลก
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจออกเดินทางไปเมืองอื่นเพื่อซื้อหนังสือพิมพ์ แล้วนำกลับมาวางขาย
และนั่นก็ทำให้เขาสามารถสร้างเงินก้อนใหญ่ให้กับตัวเองอีกครั้ง
แม้กระทั่งช่วงที่ศึกษาที่มหาวิทยาลัย
Cuban ก็ยังคงอยู่บนเส้นทางผู้ประกอบการเสมอ
เขาและเพื่อน ๆ เช่าบาร์ใกล้มหาวิทยาลัยเพื่อทำธุรกิจจัดงานปาร์ตี
ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดี จนทำให้ในที่สุดเขาสามารถซื้อบาร์เป็นของตัวเองได้
เมื่อเรียนจบ Cuban เลือกกลับมาบ้านเกิดอีกครั้ง และทำงานที่ธนาคารแห่งหนึ่ง
แต่ในเวลาต่อมา เขาตระหนักได้ว่า เมืองนี้เล็กเกินกว่าที่จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่
เขาจึงตัดสินใจลาออกและย้ายชีวิตไปอยู่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส แทน
ก็ต้องบอกว่าช่วงแรกของเขาไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่คาดหวังไว้
เพราะ Cuban ต้องทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ ประทังชีวิตในแต่ละวัน และอาศัยอยู่ในอะพาร์ตเมนต์กับเพื่อนอีก 5 คน เพื่อประหยัดอดออม
แต่แล้วในที่สุดเขาก็ได้รับโอกาส เมื่อ “Your Business Software”
บริษัทซอฟต์แวร์รับเขาเข้าทำงาน ในตำแหน่งพนักงานขาย
ซึ่ง Cuban บอกว่าตอนแรกเขาไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เลย
แต่เขาก็ได้ใช้ความพยายามในการเรียนรู้ หากไม่รู้ในสิ่งไหนก็ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม
Cuban ยังได้บอกอีกว่าแม้จะกลับมาที่พักดึกแค่ไหน เขาต้องอ่านหนังสืออยู่เสมอ และแม้กระทั่งที่ทำงาน ก็จะใช้เวลาในการเรียนรู้คอมพิวเตอร์อย่างเต็มที่
จากความพยายามครั้งนี้ จึงทำให้ตัวเขาเองมีความรู้ความเชี่ยวชาญมากขึ้น
ลูกค้าหลายรายจึงเชื่อใจในตัวเขา จนเขาสามารถสร้างยอดขายได้มหาศาล
เมื่อทุกอย่างกำลังไปได้ดี บริษัทที่เขาทำงานอยู่กลับไล่ Cuban ออก
เนื่องจากมองว่าเขากำลังสะสมลูกค้าเป็นของตัวเองมากเกินไป
ซึ่ง Cuban ก็ได้ยืนยันว่าเขาเพียงช่วยเพิ่มยอดขายให้กับบริษัทเท่านั้น
หลังจากถูกไล่ออก Cuban จึงตัดสินใจเอาคืน Your Business Software
ด้วยการเปิดบริษัทของตัวเองที่ชื่อว่า “MicroSolutions”
บริษัทที่จัดจำหน่ายซอฟต์แวร์และบริการให้คำปรึกษาด้านคอมพิวเตอร์
โดยในเวลานั้นเขาสามารถสร้างรายได้ต่อปีสูงที่สุดถึง 980 ล้านบาท
ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ก็คือ ลูกค้าเก่าจากบริษัทที่ไล่เขาออกมา
ต่อมาเขาตัดสินใจขายธุรกิจจัดจำหน่ายซอฟต์แวร์ในปี 1990 ด้วยมูลค่าราว 200 ล้านบาท
เพื่อที่จะได้เกษียณการทำงานและกลับไปใช้ชีวิตของตนอย่างปกติ
แต่เมื่อเกษียณไปได้ไม่นาน Cuban กลับรู้สึกเบื่อและโหยหาการทำงานอีกครั้ง
เขาจึงเริ่มมองหาโอกาสการทำธุรกิจใหม่และก็ได้พบเข้ากับ AudioNet
บริการสตรีมการแข่งขันกีฬา ที่มีผู้ก่อตั้งคือ Christopher Jaeb
Cuban มองว่าบริการลักษณะนี้เป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็ต้องการ แม้กระทั่งตัวเขาเอง
เขาจึงให้เงินสนับสนุนไป และเมื่อ AudioNet เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ
บริษัทแห่งนี้ก็ได้ผลตอบรับที่ดีอย่างที่คาดการณ์ไว้
ทำให้เวลาต่อมา Cuban ตัดสินใจซื้อหุ้นจาก Jaeb จนกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่
และได้เปลี่ยนชื่อบริษัทจาก AudioNet เป็น “Broadcast.com”
หลังจากนั้นไม่นาน บริษัทได้เสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไป หรือ IPO
ซึ่งก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะราคาหุ้นของ Broadcast.com
พุ่งขึ้นในวันแรกเกือบ 300% จึงทำให้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อย่าง Cuban ร่ำรวยอย่างก้าวกระโดด
และสิ่งที่ทำให้ Cuban รวยเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลอีก คือการเข้ามาซื้อกิจการของ Yahoo
โดยเป็นการเข้าซื้อด้วยวิธีแลกหุ้นกัน ซึ่ง Cuban ก็ได้กลายเป็นผู้ถือหุ้นใน Yahoo
แต่หลังจากที่ Cuban ได้รับหุ้นมาแล้ว เขาก็ได้มองว่าอุตสาหกรรมเทคโนโลยีกำลังจะเกิดฟองสบู่แต่การแลกหุ้นกับ Yahoo ยังติดเงื่อนไขห้ามขายหุ้นอยู่ เขาจึงทำการประกันความเสี่ยงโดยใช้อนุพันธ์โดยร่วมมือกับ Goldman Sachs
และก็เป็นอย่างที่รู้กันดีว่าฟองสบู่ดอตคอมก็ได้เกิดขึ้นจริง
และ Cuban ก็สามารถรอดจากวิกฤติครั้งนั้นมาได้
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Cuban ได้นำเงินไปลงทุนในเหล่าธุรกิจอยู่เรื่อยมา
และเขาได้เข้าซื้อทีมบาสเกตบอลในดวงใจอย่าง Dallas Mavericks
ด้วยมูลค่าถึง 9,000 ล้านบาท
ช่วงที่ Cuban เข้าซื้อ Dallas Mavericks เป็นช่วงที่ Performance ของทีมตกอย่างมาก
อัตราการชนะของทีมอยู่ที่เพียง 40% เท่านั้น
แต่หลังจากการเข้ามาบริหารของ Cuban ทีม Dallas Mavericks ก็มีผลงานที่ดีขึ้นและอัตราการชนะของทีมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 69%
สิ่งที่ Cuban ใช้สำหรับบริหารทีม คือ การใช้ความเป็นแฟนคลับผสมกับความสามารถด้านธุรกิจ
เช่น สำหรับแฟนคลับ เขาเองก็เป็นแฟนบาสเกตบอลเช่นกัน จึงทำให้รู้ว่าคนต้องการอะไร
เขาลงทุนในสิ่งต่าง ๆ ที่ช่วยให้แฟนคลับได้รับประสบการณ์ที่ดี อย่างช่องทางการสื่อสารกับผู้เล่น
นอกจากนั้น ก็ยังมีเรื่องของการดูแลและสนับสนุนผู้เล่นในทีม
Cuban สนับสนุนและดูแลสมาชิกของทีมในหลาย ๆ เรื่องอย่างที่พักและการเดินทาง
ซึ่งแตกต่างจากเจ้าของทีมคนเก่า ที่ดูจะไม่ค่อยให้การสนับสนุน
และนั่นก็เปรียบเหมือนว่า Cuban ให้ใจกับพวกเขา จึงทำให้ผู้เล่นในทีมมีความสุขและมีความเชื่อมั่น ทั้งหมดนี้จึงส่งผลให้การซ้อมและการแข่งขันเป็นไปอย่างเต็มที่
เขาเป็นคนที่คอยช่วยสร้าง Culture ใหม่ในทีมร่วมกับโค้ช Don Nelson ด้วย
เพื่อให้สมาชิกในทีมคลิกกันและให้ความสำคัญกับผลงานมากกว่าความอาวุโส
อีกส่วนสำคัญคือ การใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์
โดย Cuban จ้าง Roland Beech นักคณิตศาสตร์สถิติ เพื่อเก็บข้อมูลตัวเลขต่าง ๆ ของผู้เล่น
แล้วนำมาวิเคราะห์ ในการวางแผนกลยุทธ์สำหรับการแข่งขัน และนั่นก็ส่งผลให้ทีมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
จากการเข้ามาบริหารของ Cuban ส่งผลให้ Dallas Mavericks กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง
และมีการประเมินว่า มูลค่าทีมปัจจุบันสูงถึง 80,000 ล้านบาท
โดยสิ่งที่ทำให้เขามีชื่อเสียงโด่งดังไม่ใช่เพียงแค่ Broadcast.com กับ Dallas Mavericks เท่านั้น
แต่การมาเป็นนักลงทุนในรายการ Shark Tank ก็ทำให้ชื่อเสียงของเขาพุ่งทะยานอีก เช่นกัน
Shark Tank คือรายการสุดฮิตของสหรัฐอเมริกาที่เหล่าผู้ประกอบการจะต้องพรีเซนต์ให้นักลงทุนฟัง
เพื่อโน้มน้าวนักลงทุนให้มาลงทุนในธุรกิจของตน
ด้วยสไตล์การวิพากษ์วิจารณ์ธุรกิจของเขาที่ให้แก่ผู้ประกอบการอย่างดุดันและตรงไปตรงมา
ซึ่งอาจจะฟังแล้วเจ็บแสบ แต่ล้วนเป็นความรู้และข้อคิดที่ดี
จึงทำให้มีแฟนคลับมากมาย ทั้งนักธุรกิจ นักลงทุน รวมถึงผู้รับชมทั่วไป
ตั้งแต่ Cuban เข้าร่วมรายการ Shark Tank
เขาลงทุนไปแล้วรวมธุรกิจมากกว่า 80 แห่ง
คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 650 ล้านบาท
นอกจากนี้ เขายังได้ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับกลุ่ม Blockchain และ Cryptoasset อีกด้วย
เช่น OpenSea และ SuperRare แพลตฟอร์มซื้อขาย NFT ขนาดใหญ่
Polygon Blockchain ที่ได้รับความนิยมในช่วงที่ผ่านมา
ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่า แม้เขาจะอายุ 60 กว่าปีแล้ว แต่ก็ไม่หยุดที่จะเรียนรู้และเปิดรับสิ่งใหม่
ปัจจุบัน Cuban ยังคงเป็นทั้งผู้ประกอบการและนักลงทุนไปพร้อม ๆ กัน
จึงทำให้เขามีมูลค่าทรัพย์สินรวมที่ 140,000 ล้านบาท
ปิดท้ายด้วยคำกล่าวของ Mark Cuban
ที่ได้พูดถึงเคล็ดลับความสำเร็จของเขาว่า
“สิ่งที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จนั้น
เกิดขึ้นจากความพยายามค้นหาและศึกษาหาความรู้อยู่ตลอดเวลา
สิ่งเหล่านี้เอง ที่คนส่วนใหญ่ไม่มี จึงทำให้เขาได้เปรียบในการแข่งขันอยู่เสมอ”
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.cnbc.com/2020/10/05/mark-cuban-this-is-the-best-investment-i-ever-made.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Mark_Cuban
-https://www.capitalism.com/mark-cuban-net-worth/
-https://markcubancompanies.com/marks-bio/
-https://www.sportscasting.com/how-much-did-mark-cuban-pay-for-the-dallas-mavericks/
-https://www.businessinsider.com/how-mark-cuban-turned-around-dallas-mavericks-2015-4
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過90的網紅Giovanna Sun,也在其Youtube影片中提到,AI, Algoritium, and NFT art: Interview SupeRare artist, Anne Spalter. Digital mixed-media artist Anne Spalter is an academic pioneer who founded the...
superrare twitter 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
NFT คืออะไร ? ทำไมเสกที่ดิน ที่ไม่มีอยู่จริง ให้มีมูลค่า 45 ล้านบาท /โดย ลงทุนแมน
ที่ดินถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีจำกัด
ซึ่งสวนทางกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น
นั่นจึงไม่น่าแปลกใจว่าส่วนใหญ่ มูลค่าของที่ดินมีแนวโน้มที่สูงขึ้นเรื่อยมา
หากเรามาดูที่ดินที่แพงที่สุดในประเทศไทย
ก็จะอยู่แถวพระราม 1 บริเวณสยามเซ็นเตอร์
โดยมีมูลค่าตารางวาละ 3.3 ล้านบาท
แต่รู้หรือไม่ว่าในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ที่ดินที่ไม่มีอยู่จริงบนโลกและเป็นเพียงที่ดินที่ถูกสร้างขึ้นมา
บนแพลตฟอร์มโลกเสมือนที่ชื่อว่า “Axie Infinity”
กลับถูกซื้อขายกันที่ 45 ล้านบาท
จริง ๆ แล้ว เบื้องหลังของเรื่องทั้งหมดนี้
เกิดจากเทคโนโลยีที่เรียกว่า NFT
แล้ว NFT มันคืออะไร ? ทำไมจึงสร้างมูลค่าให้ที่ดินบนโลกเสมือน จนมีมูลค่ามากขนาดนี้
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
NFT ย่อมาจาก Non-Fungible Token
หรือแปลเป็นไทยว่า “สินทรัพย์ดิจิทัลที่มีลักษณะเฉพาะตัว”
ซึ่ง NFT นี้เองก็ถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ประเภทคริปโทเคอร์เรนซี
ทีนี้ ก่อนที่เราจะเข้าใจ Non-Fungible Token
เราก็ต้องมารู้จักคำว่า “Fungible” กันก่อน
Fungible คือสิ่งที่สามารถแลกเปลี่ยนหรือแทนที่กันได้
เช่น ธนบัตร 100 บาทสามารถแลกเปลี่ยนเป็นธนบัตร 50 บาทได้ 2 ใบ
ทองคำแท่งหนัก 10 บาทสามารถแลกเปลี่ยนกับทองคำหนัก 1 บาท 10 แท่ง
หรือเพื่อนยืมเกลือหรือน้ำตาลของเราไปใช้ แล้วซื้อมาคืน
ซึ่งก็แปลว่า Fungible มีคุณสมบัติที่คล้ายกันกับสินค้าโภคภัณฑ์
ทั้งนี้ Fungible ยังแบ่งออกมาได้อีก 2 ประเภท คือสิ่งที่จับต้องได้กับสิ่งที่เป็นดิจิทัล
สำหรับสิ่งที่จับต้องได้ เช่น แร่เงิน ทองคำ หรือธนบัตรที่เราใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
ในขณะที่สิ่งที่เป็นดิจิทัลคือสกุลเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีต่าง ๆ เช่น บิตคอยน์ หรืออีเธอเรียม
ในทางกลับกัน Non-Fungible ก็จะมีลักษณะแตกต่างกันออกไป
โดยสินทรัพย์แต่ละอย่าง “จะไม่สามารถทดแทนกันได้”
ยกตัวอย่าง งานภาพของศิลปินแวน โก๊ะ รูปหนึ่ง
ก็ไม่สามารถทดแทนอีกรูปหนึ่งได้ เพราะมันมีลักษณะและมูลค่าที่แตกต่างกัน
หากเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลก็เช่น รูปถ่าย เพลง คลิปวิดีโอ หรืองานอาร์ตที่เป็นดิจิทัลต่าง ๆ
แต่การเป็น NFT นั้นแตกต่างจากการเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วไป
ตรงที่ข้อมูลเจ้าของกรรมสิทธิ์จะถูกบันทึกลงใน “Blockchain” ทันที
ซึ่งมีคุณสมบัติคือข้อมูลจะไม่สามารถถูกแก้ไขได้
นั่นจึงทำให้รู้ได้ทันทีว่าใครเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้น ๆ
แถมยังตรวจสอบได้ว่าเป็นของจริงหรือของปลอม
ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ จึงทำให้การเกิดขึ้นของ NFT
เป็นเรื่องที่ดีสำหรับอุตสาหกรรมลิขสิทธิ์เป็นอย่างมาก
เพราะไม่มีใครสามารถนำไปทำซ้ำได้ อย่างที่เป็นปัญหาในปัจจุบัน
ส่งผลให้เหล่าศิลปินและโปรแกรมเมอร์เริ่มนำเทคโนโลยีนี้ไปประยุกต์ใช้กับสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ดิจิทัล หรือที่ดินบนโลกเสมือนที่ได้ยกตัวอย่างมาข้างต้น
แล้วอสังหาริมทรัพย์ดิจิทัลมีขายที่ไหนบ้าง ?
นอกจากบนโลกเสมือนจริงของ Axie Infinity
ก็ยังมี Somnium Space, The SandBox และ Decentraland
ที่น่าสนใจ คือที่ดินในโลกเสมือนจริงเหล่านี้มียอดขายรวมมากกว่า 2,600 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมูลค่าก็มาจากการขายที่ดินและสิ่งของต่าง ๆ บนแพลตฟอร์ม
ถ้าให้เปรียบสถานที่เหล่านี้ก็อาจคล้ายกับภาพยนตร์ Ready Player One
ที่เป็นสถานที่บนโลกเสมือนที่ผู้คนเข้ามาทำกิจกรรมร่วมกัน
เช่น การพูดคุย ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า หรือเล่นเกมด้วยกัน
และหากซื้อที่ดิน เราจะสามารถนำมาปล่อยเช่าต่อหรือสร้างสิ่งก่อสร้าง
อะไรก็ได้บนพื้นที่ตัวเอง ซึ่งไม่ต่างจากที่ดินบนโลกจริงเลย
และแม้ว่าจะเป็นที่ดินดิจิทัลก็ตาม แต่รู้หรือไม่ว่าที่ดินเหล่านี้ก็มีจำกัดเช่นเดียวกัน
เพราะมันถูกสร้างบนเทคโนโลยี NFT ที่ถูกจำกัดปริมาณตั้งแต่แรกไว้อยู่แล้ว
หากถามว่าทำไมผู้คนถึงยอมซื้อสินทรัพย์ที่ไม่มีอยู่จริง
บางคนก็บอกว่าต้องมองย้อนกลับไปช่วงที่ Facebook เริ่มต้น
หากในตอนนั้นมีคนมาเสนอขายเพจ Facebook เราก็อาจไม่ได้สนใจ เพราะเป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้
แต่ ณ เวลานี้เรารู้แล้วว่าเพจ Facebook ที่แตกต่างกัน อาจมีแฟนเพจที่ติดตามอยู่เป็นกลุ่มเฉพาะตัว ที่อาจมีโอกาสในการหารายได้ที่มหาศาล และบางคนก็อาจยอมให้มูลค่าซื้อขายเพจ Facebook กัน
และด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้คนบางกลุ่มให้คุณค่ากับ NFT เหล่านี้อย่างมากเช่นกัน
ทีนี้ เรามาดูตัวอย่างการใช้ NFT ที่นอกเหนือจากที่ดินในเกม
แล้วยังมีด้านไหนอีกบ้าง ?
ด้านงานศิลปะ
ตอนนี้มีงานศิลปะที่ชื่อว่า Everydays—The First 5000 Days ซึ่งถือว่าเป็นงานศิลปะดิจิทัลที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก โดยมูลค่า ณ ขณะนี้อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท
นอกจากนั้นยังมี SuperRare ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับซื้อขายงานศิลปะดิจิทัล
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมถึง 2,100 ล้านบาท
ด้านกีฬา
NBA ก็นำเทคโนโลยีนี้มาใช้กับวิดีโอไฮไลต์ของการแข่งขันบาสเกตบอล
ไม่ว่าจะเป็นท่าตอนดังก์หรือการโยนทำแต้มต่าง ๆ ก็นำมาทำในรูปแบบ NFT
โดยเหล่าแฟนคลับที่ซื้อไป จะได้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของโมเมนต์นั้น ๆ
ราคามีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักล้านบาท
แล้วรู้หรือไม่ว่าในประเทศไทยเองก็กำลังจะมีตลาดแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ NFT เช่นกัน
ซึ่งทาง Bitkub กำลังทำโปรเจกต์ร่วมกับเหล่า YouTuber ของประเทศไทย
ในการสร้างตลาดแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ NFT โดยเจาะที่กลุ่มแฟนคลับก่อน
สิ่งที่เหล่า YouTuber นำมาขายก็จะเป็นคลิปโมเมนต์ต่าง ๆ ที่ไม่เคยลงที่ไหน
ซึ่งเหล่าแฟนคลับจะต้องใช้เหรียญ $FANS หรือ Fans Token สำหรับซื้อสินค้า
จากเหตุการณ์ทั้งหมด เราก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการนำ NFT มาประยุกต์ใช้
ก็น่าจะกลายมาเป็นประโยชน์ของหลาย ๆ อุตสาหกรรม
โดยเฉพาะวงการศิลปินและงานอาร์ต
รวมไปถึงการนำไปประยุกต์ใช้กับที่ดินในเกมที่ไม่มีอยู่จริง
จนมันมีมูลค่าเกินกว่าที่ดินในชีวิตจริงไปเลยทีเดียว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://screenrant.com/expensive-nfts-sold-so-far/
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-03-19/virtual-land-prices-are-booming-and-now-there-s-a-fund-for-that
-https://www.prachachat.net/property/news-576666
-https://www.bitkub.com/blog/fans-token-30ac17db1044
-https://www.reuters.com/business/metaverse-bet-crypto-rich-investors-snap-up-virtual-real-estate-2021-04-19/
-https://101blockchains.com/nft-use-cases/
-https://nonfungible.com/
-https://trustwallet.com/blog/virtual-world-and-nfts-decentraland
superrare twitter 在 動區動趨 BlockTempo - 由社群而生的區塊鏈媒體 - Media for Blockchain Facebook 的最佳解答
#NFT #時代雜誌 #推特執行長
【推特CEO首篇推文290萬鎂售出!《TIME》拍賣「xx已死」封面NFT、請懂比特幣的財務長】
⚡️傑克多西立刻兌現了他的諾言,轉出將近 51 枚比特幣給慈善組織「GiveDirectly」
TIME 雜誌昨日宣布,將在 NFT 平台 SuperRare 上拍賣三張雜誌封面,主題分別是「上帝已死?」、「真相已死?」以及「法幣(Fiat)已死?」截稿前,最高出價落在「法幣已死」上,來到 20 枚以太幣。TIM 同時宣布 30 天內開始接受加密貨幣付款
-
#同場加映
①不久前才諷刺!A16z、Mark Cuban投資「NFT 交易所 OpenSea」A輪融資
https://pse.is/3dmepm
②NFT靠「粉絲經濟貨幣化」出圈,是加密貨幣市場的下一個金礦?
https://pse.is/3br4cy
-
✅ 即時新聞鎖定 #動區Telegram
https://t.me/blocktemponews
✅ 每日新聞精選訂閱 #LINE:
https://line.me/R/ti/p/%40kgx9780p
✅ 右轉動區 #千人投資討論群:
https://line.me/ti/g2/htySqS7SoKOuGGFx4Gn9dg
superrare twitter 在 Giovanna Sun Youtube 的最佳貼文
AI, Algoritium, and NFT art: Interview SupeRare artist, Anne Spalter.
Digital mixed-media artist Anne Spalter is an academic pioneer who founded the original digital fine arts programs at Brown University and The Rhode Island School of Design (RISD) in the 1990s and authored the internationally taught textbook, The Computer in the Visual Arts (Addison-Wesley, 1999).
(https://annespalter.com/about/)
In this session, we learn AI and NFT art from an established artist, Anne Spalter.
Anne Spalter shared her technology and art in the video. She is one of the artists featured by SuperRare, an NFT art marketplace focus on rare, seen art, and showcase selected artists and works.
Host: Heidi Russell. Giovanna Sun
Interviewer: Anne Spalter
Let's connect!
Amazon author page: amazon.com/author/giovannasun
Instagram: @giovannasun
Twitter: https://twitter.com/GiovannaSun
Podcast: apple.co/2X3hKyy
Soundcloud: https://soundcloud.com/giovannasun
Contact me at dubwoman@gmail.com